เสาโทรเลข 1.8 Da และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย [จบ] #เรื่องสั้นวาเลนไทน์ By แมวจร - เสาโทรเลข 1.8 Da และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย [จบ] #เรื่องสั้นวาเลนไทน์ By แมวจร นิยาย เสาโทรเลข 1.8 Da และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย [จบ] #เรื่องสั้นวาเลนไทน์ By แมวจร : Dek-D.com - Writer

    เสาโทรเลข 1.8 Da และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย [จบ] #เรื่องสั้นวาเลนไทน์ By แมวจร

    ผู้เข้าชมรวม

    758

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    758

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 66 / 20:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    +



    เสาโทรเลข 1.8 Da
    และอุกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย

    (เ รื่ อ ง สั้ น   ว า เ ล น ไ ท น์ เ ด ย์ )

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    [ ปล. ขอรับรองว่าชื่อเรื่องเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]



     

    SQW
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      เสาโทรเลข 1.8 Da
      และอุกกกาบาตที่พุ่งชนรัสเซีย

       

      เสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน ฉันได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินผ่านไป ผมสีบลอนด์ของเธอพลิ้วไหว ฉันจ้องมองรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหวานฉ่ำ ใช่แล้ว หวานฉ่ำ เธอเป็นเด็กนักเรียนระดับท็อปที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ฉันเองก็เป็นนักเรียนระดับท็อปเหมือนกัน แต่...แค่เฉพาะสมองเท่านั้น

      ‘กลิ่นเธอหอมจัง แล้วก็...’  ฉันคิดไล่หลังเธอไป แต่เสียงความคิดของฉันตามไปไม่ทัน เธอเลี้ยวซ้ายที่สุดทางเดินและหายไปจากสายตาหลังจากนั้นความคิดของฉันก็ลอยกลับมาหาตัวฉันเอง

      ‘ช่างเถอะ’ ฉันล้วงมือในกระเป๋าเพื่อหยิบกระดาษออกมา มันไม่เชิงว่าเป็นกระดาษเสียทีเดียว แต่เป็นกระดาษที่ใช้ทำกิจกรรมบอกรักกัน หรืออะไรทำนองนั้น ฉันได้ยินมาว่าพวกปี 3 สั่งให้นักเรียนทุกคนช่วยกันเขียนการ์ดวาเลนไทน์ไปติดที่ห้องโถงใหญ่ ตลอดทางเดินมีนักเรียนจากทุก ๆ สาขาเดินสวนไปมา พวกเขาบางคนหัวเราะคิกคัก ใบหน้าแต้มสีชมพูหวานแหวว

      ฉันเดินเลี้ยวซ้ายเขาสู่ห้องโถงใหญ่และดิ่งตรงไปยังจุดติดการ์ดใกล้ ๆ กันมีนักเรียนจากสาขาอื่นยืนอยู่ด้วย ฉันไม่ทันได้มองหน้ารู้แค่ว่าเขาเป็นนักเรียนชาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันเพียงแค่จะเอากระดาษมาติดเท่านั้น หลังจากที่กดหมุดตรึง กดแล้วกดอีกจนกระดาษติดลงบนบอร์ดเสร็จเรียบร้อย

      นักเรียนชายคนนั้นก็เดินลิ่วไปไกลแล้ว เขาสูงเหมือนเสาโทรเลขขนาด 1.8 ไม่ถึง 2 เมตรดี ถ้ามองจากตรงนี้ หรืออาจเป็นเพราะฉันไม่สูงเท่าไหร่นัก

       

      กร็อบ

      เฮ่อ... ฉันรู้ และเซ็งสุด... พอหันหลังกลับไปก็เป็นอย่างที่คิดไม่ผิด เพราะว่าย้ำหมุดลงบนบอร์ดซ้ำหลายครั้งมากไป ไม้เลยคลายตัวออก ทั้งการ์ดและหมุดร่วงลงพื้นเหมือนใบไม้กรอบหลุดออกจากขั้ว ฉันก้มลงเก็บมันปักลงบอร์ดใหม่อีกครั้ง ขยับสูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อหลบรอยปักอันเก่า แล้วพลันสายตาฉัน... ทั้ง ๆ ที่ปักหมุดตัวเองอยู่แท้ ๆ ฉันเห็นการ์ดข้าง ๆ ของเสาโทรเลขขนาด 1.8
       

                 Happy valentine’s Da
       

      ฉันอ่าน แล้วก็ฉงนว่าเสาโทรเลข 1.8 เมตร เขียนผิดหรือเปล่า ฉันถอนมือออกจากการ์ดของตัวเองหลังจากแน่ใจว่ามันจะไม่ตกลงมาอีกเป็นครั้งที่สอง สายตายังจับจ้องที่ Da สีน้ำเงินไม่สมบูรณ์ เบี้ยว ๆ ดูรีบ ๆ มันคาใจฉันเหลือเกิน และด้วยความไม่สมบูรณ์ที่อภัยไม่ได้ ฉันจึงหยิบปากกาของฉันขึ้นมาเขียนตัว y สีดำต่อจาก Da สีน้ำเงิน จากนั้นมันก็สมบูรณ์แบบในรูปของประโยค แต่แปลกประหลาดเพราะสีดำของฉัน 

      แต่... อย่างน้อยมันก็มี y และเป็น y ที่สวยสง่า มีศิลปะเสียด้วยสิ
       

      ฉันหันหลังเดินจากบอร์ดนั้นอย่างสบายใจ เพราะตอนนี้ Da มี y ตามหลังแล้ว ในขณะที่สายตามองไปข้างหน้า เสาโทรเลขขนาด 1.8 วิ่งหน้าตั้งกลับเข้ามาด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฉันจ้องหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง พลางซ่อนปากกาเอาไว้ในจุดที่คิดว่าเขาจะมองไม่เห็น และรีบเร่งจังหวะก้าวเท้าให้ยาวขึ้น

      ร่างสูงโปร่งนั้นวิ่งผ่านฉันไปจนลมปะทะหน้า ฉันรู้ว่าเขากลับไปที่บอร์ด เขาอาจจะรู้ตัวแล้วว่า y หายไป !  ฉันเหลือบมองตามไปก็เห็นเขาหยุดชะงักอยู่ที่หน้าบอร์ด ท่าทางลุกลี้ลุกลนพิกล แล้วตาคู่นั้นก็ดันสบมาทางฉัน ฉันเห็นปลายเท้าของเขาขยับชี้มาทางฉัน

      ไม่ ไม่ อย่าทำอย่านั้น นายกำลังจะเดินมาทางนี้ใช่ไหม อย่า...

      ฉันหันขวับกลับไปที่ทางเดิน รีบก้าวเท้าพรวด ๆ แต่ได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา เป็นเจ้า Da สีน้ำเงิน ! มันเหมือนกับว่าฉันมองเห็นประตูอยู่ข้างหน้า และรู้ตัวว่ากำลังจะตาย ไม่มีทางที่ฉันจะหนีไปถึงประตูนั้นก่อนที่จะขาดใจได้ ! ไหล่ฉันถูกจับจนสะเทือน เสียง ปึ้บ ดังอยู่ในจิตสำนึกของฉัน และหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของ Da สีน้ำเงินดังอยู่ข้างหลัง

      “นี่เธอ !”

      นั่นทำให้ฉันคิดถึงเรื่อง ๆ หนึ่งที่ฉันเพิ่งอ่านไปเมื่อคืน มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และผู้คนก็แตกตื่นกันมาก เรื่องถูกเขียนโดยนักข่าวชาวรัสเซียคนหนึ่ง เขาอ้างว่าอย่างนั้น... 

      เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปีหนึ่งสามเกิดเหตุการณ์สะเก็ดดาวตกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก เหนือประเทศรัสเซีย และบางส่วนของประเทศคาซัคสถาน เกิดเป็นลูกไฟพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วอย่างน้อย 54,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุกกาบาตก้อนนี้หนักราว ๆ 10,000 ตันได้ในช่วงก่อนที่มันจะหลุดเข้ามาในชั้นบรรยากาศ... 

      เมื่อมันกระทบบนผิวโลก มันสั่นสะเทือนฝังตัวเป็นหลุมลึก เกิดรอยร้าวและความสูญเสียมากมาย หลังจากนั้นทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นอัมพาต ทั้งการจราจร คมนาคม และอื่น ๆ สาธารณูปโภคติดขัด ระบบทุกอย่างในบริเวณนั้นและใกล้เคียงล่มสลาย บกพร่องกินเวลายาวนาน
       

      ใช่ ทุกอย่างเป็นอัมพาต

      และนายคืออุกกาบาตปี 2013

      “.....” ฉันเงียบใบ้ --- มองไปยังยังอุกกาบาตที่วิ่งมาชนฉัน ดวงตาสีฟ้าเข้มสุกใสเหมือนดาวเคราะห์ HD189733B ซึ่งอยู่ห่างจากโลกตั้ง 63 ปีแสง มันสว่างสดใส จับจ้องมายังฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉันได้แต่เงียบใบ้ เพียงแค่ครู่เดียวอุกกาบาตปีหนึ่งสามก็ยิ้ม ฟันขาวนวลค่อย ๆ เผยแก่สายตาของฉัน

      “เอ่อ โทษทีนะพอดีว่าฉัน --- เธอพอจะรู้ไหมว่าใครเขียนการ์ด ...”

      ไม่ ! ๆ อย่าพูดกับฉัน เอามือของนายออกไป !  ฉันนิ่งงัน ดาวเคราะห์สีฟ้าคู่นั้นจรดสายตาที่ปากกาในมือฉัน รอยยิ้มบนใบหน้าของอุกกาบาตปีหนึ่งสาม ยิ่งแจ่มชัดขึ้นอีก

      “ปากกาพู่กันจีน อืม...ดูดีนะ ใช่สีดำรึเปล่า ?” อุกกาบาตปีหนึ่งสามถาม ฉันไม่รู้ว่าหลังจากที่อุกกาบาตพุ่งชนประเทศรัสเซียแล้ว นานเท่าไหร่กว่าพวกเขาจะเก็บกู้ซากอุกกาบาตออกไปได้ และนานเท่าไหร่ กว่าระบบทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ ฉันยังอ่านไม่ถึงตรงนั้น ในวินาทีที่ก้อนอุกกาบาตตกกระทบลงบนพื้นโลกอย่างไม่คาดคิด ประเทศรัสเซียสะเทือนเลื่อนลั่น ชาวรัสเซียที่รอดตายจะมึนงง พวกเขาหูดับจากเสียงปะทะ และทั้งเมืองจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นหนา พวกรัสเซี่ยนจะตาบอดชั่วขณะ

      ฉันกำลังตาบอด หูดับ และตอนนี้คลานอยู่ในฝุ่นหนาจับทิศทางไม่ถูก จนกระทั่งรู้ว่าลืมซ่อนปากกาของตัวเอง

      “เอ่อ...”

      พูดต่อไปสิ ฉันต้องรีสโตร์สมองของฉันใหม่อีกครั้งแต่ก่อนอื่นต้องตอบคำถามก่อน

      “หืม ?”

      ดาวเคราะห์สีฟ้านิ่งสองดวงยังคงจับจ้องมาที่ฉัน มันสวยทีเดียว และดูแปลกตาเข้าใจไหม สงบนิ่งแต่ดึงดูด คิ้วคู่นั้นขยับไหวเหมือนกำลังตั้งคำถามบางอย่างกับฉัน

      “สีดำ” ฉันตอบ คำถามมีอยู่ว่าใช่สีดำหรือเปล่า ในขณะที่สมองกำลังรีสโตร์ง่ายที่สุดคือการตอบคำถามที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งก็คือสีดำ... คราวนี้อุกกาบาตปีหนึ่งสามยิ้มเพิ่มดีกรีความเป็นมิตรขึ้นอีก

      ดาวเคราะห์สีฟ้าถูกเปลือกตาบดบังแต่ยังเห็นสีฟ้ารำไร ลึกลับ น่าค้นหา สสารกำลังถูกหลอมละลาย มีบางอย่างกำลังติดไฟจากรอยยิ้มนั้น S (Smile) ของอุกกาบาตเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ลุกติดไฟในอากาศ  ---- ไฟ ที่มองไม่เห็น

      ฉันรู้สึกร้อน และฉันเป็นสสารที่ไม่ทนต่อไฟ 


       

      “อ้อ งั้นเองเหรอ ?” เขาพูด

      ฉันไม่แน่ใจว่าพยักหน้าตอบไปหรือเปล่า ตอนนี้ระบบของฉันยังไม่กลับมาสมบูรณ์ 100% แต่คงได้สักราว ๆ 40% แล้ว แต่.... % ของฉันจะลดลงถ้าฉันจ้องนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้น ฉันรู้สึกได้ ฉันจ้องมองดาวเคราะห์ข้างซ้าย แล้วขยับย้ายไปข้างขวา และกลับไปซ้ายอีกครั้ง

      “เธอ ชื่ออะไรเหรอ ?” อุกกาบาตปีหนึ่งสามถามพร้อมกับเพิ่มเชื้อเพลิง S เข้าสู่มวลอากาศสสารกำลังละลายและไหลลงไปที่พื้นของห้องโถง การฟื้นตัวลดลงไป 6% ดาวเคราะห์ HD189733B กำลังสร้างแรงดึงดูดอย่างมหาศาล และฉันกำลังลอยไปตามแรงดึงดูดของมัน รู้สึกได้ว่าเท้าไม่แตะพื้น

      “เฮ้ ! เสร็จรึยัง !?” เสียงผู้ชายตะโกนข้ามไหล่ฉันไปชนกับอุกกาบาตปีหนึ่งสาม เขาสะดุ้งและมองข้ามหัวของฉันไป ฉันรู้สึกว่าตอนนี้แรงดึงดูดหยุดลงแล้ว เมื่อก้มลงมองที่พื้นก็พบว่าเท้าทั้งสองข้างยังสนิทแนบกับพื้นดี

      ที่ด้านหลังของฉันตรงโถงทางเดินเชื่อมเข้ากับห้องโถงใหญ่ นักเรียนชายสองคน คนหนึ่งสวมเครื่องแบบที่ดูเรียบร้อยสะอาดตา อีกคนสวมเสื้อฮูดดำทับไว้ สองคนนั้นจ้องมายังฉัน สลับกับอุกกาบาตปีหนึ่งสาม ฉันเห็นรอยยิ้มมีนัยยะ เปล่งประกายออกมาจากใบหน้าของพวกเขาทั้งสอง

      “กำลังไป !” อุกกาบาตตะโกนบอก ฉันจึงหันกลับไปมองยังเขาอีกครั้ง ดาวเคราะห์สีฟ้าสองดวงที่มองทอดไปยังโถงทางเดินตอนนี้วกกลับมาหาฉัน จับจ้องฉัน แต่เชื้อเพลิง S ลดลง เพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางลง อาจเพราะฉันเองก็ยังไม่แน่ใจ

      “คืองี้นะ ฉันต้องไปแล้ว เธอ  เอ่อ....” เขาพูดพลางก้มหน้าลง มือตบมั่วไปทั่วร่างกายของตัวเอง ตอนนี้ภาพของเสาโทรเลขขนาด 1.8 กำลังทับซ้อนกับอุกกาบาตที่ถล่มรัสเซียจนเละเป็นจุล เสียงปุ้บ ๆ หยุดลงและเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เขายัดมันใส่มือของฉัน อุกกาบาตพุ่งชนรัสเซียเป็นครั้งที่สอง...

      “ขอบคุณเธอมาก แล้วก็ Happy valentine’s day”
       

      โฮโมเซเปียนส์...

      โฮโมเซเปียนส์เป็นสิ่งมีชีวิตเลือดอุ่น นั่นจึงทำให้ร่างกายอบอุ่น มือของเขา...อบอุ่น เสียงซอร์ฟของอุกกาบาตตกกระทบ หนักแน่นแต่นุ่มนวล แรงสั่นสะเทือนทำให้ฉันลอยจากพื้น เบาโหวงไร้น้ำหนัก และชาพล่าน...

      “หวังว่าจะได้เจอกันอีก ต้องเจอแน่ใช่ไหม ฉันไปก่อนนะ” เขาพูดอย่างรีบร้อน มือของฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ในขณะเดียวกันเขาก็วิ่งจากไป ทิ้งเอาไว้แต่ไอร้อน ๆ ที่มือของฉัน ราวกับว่าผู้ชายสองคนที่โถงทางเดินคือผู้เก็บกู้ซากอุกกาบาต ตอนนี้อุกกาบาตถูกเก็บกู้ไปแล้ว เหลือทิ้งเอาไว้แต่รอยลึก แตกร้าว พื้นผิวไม่เรียบ เหมือนส่วนที่ลึกเป็นหลุมนั้นมีพื้นผิวบางส่วนขาดหายไป
       

      ใช่ ขาดหายไป

      และหลุมนั้นต้องการบางอย่างมาเติมเต็มอย่างที่มันไม่เคยเป็นมาก่อน

      เมื่อผายฝ่ามือออก สิ่งที่ถูกทิ้งเอาไว้เป็นวัตถุรูปหัวใจ น้ำหนักเบา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 เซนติเมตร มันถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีน้ำเงินเงาวับ แน่นิ่งอยู่บนฝ่ามือของฉัน

      มวลสารรอบตัวเริ่มเข้าสู่สภาวะไร้น้ำหนัก...

      ฉันจ้องมองวัตถุลึกลับในมือของตัวเอง และคิด... ว่าฉันควรทำอย่างไรกับมันดี โดยปกติแล้วช็อกโกแลตวาเลนไทน์ เราต้องกินมันเข้าไปให้หมด หรือเราควรเก็บเอาไว้จนกว่าโลกจะล่มสลาย ไม่ก็ จนกว่าสสารของมันจะสลายไปตามกาลเวลา ฟอยล์คงอยู่ได้ราว ๆ 30 ปี แต่ช็อกโกแลตคงอยู่ไม่ถึง

      ฉันยืนนิ่งงัน

      ดวงตาสีฟ้าเดียวกับดาวเคราะห์ HD189733B วกกลับเข้ามาในความคิดของฉัน วนเวียนอยู่อย่างนั้น ฉันยังคงติดพันอยู่ในวงโคจรที่ไกลออกไปตั้ง 63 ปีแสง

                      

      เชื้อเพลิง S มลายหายไปแล้ว แต่ฉันอยากถูกเผาไหม้อีกครั้ง...

       

      ....

      อุกกาบาตถูกเก็บกู้เรียบร้อย...  แต่รัสเซียยังคงเป็นอัมพาต...



       

       

      เอชดี 189733 บี - วิกิพีเดีย
      ดาวเคราะห์ HD189733B
       

       

       


      แด่่
      ความรักที่ไม่อาจเข้าใจ และหาที่มาที่ไปไม่ได้
      - แ ม ว จ ร
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×